จนถึงอย่างน้อย 20.00 น. หากคุณต้องการซื้ออาหารสดใหม่มาก ๆ ในหลาย ๆ ที่จะมีตลาดนัดรายสัปดาห์ (Wochenmarkt) หนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์ มักจะจัดขึ้นในวันเสาร์ ที่ตลาดนัดรายสัปดาห์คุณสามารถซื้อผลไม้ ผักสด และอาหารท้องถิ่นพิเศษต่าง ๆ ส่วนเนื้อสดและไส้กรอกสดสามารถหาซื้อได้ในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายเนื้อ (ในเยอรมนีตอนใต้เรียกว่า Metzgereien) ขนมปังสดใหม่สามารถซื้อได้จากร้านเบเกอรี่

ร้านเบเกอรี่ ร้านขายเนื้อ และร้านค้าเล็ก ๆ อื่น ๆ ในเมืองเล็ก ๆ และหมู่บ้านมักจะปิดเร็วหรือเปิดเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ตลาดนัดรายสัปดาห์มักจะเปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงบ่าย ในวันอาทิตย์ ร้านค้าทั้งหมดจะปิด มีเพียงร้านเบเกอรี่ ร้านค้าในสถานีรถไฟ และปั๊มน้ำมันที่มักจะเปิดในวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้ที่สุดอยู่ไกลหรือคุณไม่อยากออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของ? คุณสามารถใช้บริการส่งของถึงบ้านได้ จะมีคนมาส่งอาหารและของใช้ที่คุณต้องการถึงบ้าน เพียงค้นหาในอินเทอร์เน็ตโดยใช้คำว่า “Lieferservice Lebensmittel “บริการส่งของ อาหาร” และใส่ชื่อเมืองของคุณ ปกติคุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งยังมีบริการส่งของถึงบ้าน แต่บริการนี้มักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการไปซื้อของที่ร้านเอง นอกจากนี้ยังมีบริการส่งอาหารสำเร็จรูปอีกด้วย โดยคุณสามารถโทรสั่งหรือสั่งผ่านอินเทอร์เน็ตได้

ในเยอรมนีมีระบบการเก็บเงินมัดจำ (Pfand) สำหรับกระป๋องเครื่องดื่ม ขวดพลาสติก และขวดแก้วหลายประเภท โดยคุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อยสำหรับกระป๋องหรือขวด (โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 8 ถึง 25 เซนต์) เงินจำนวนนี้คุณจะได้รับคืนเมื่อคุณนำภาชนะเปล่ามาคืนที่ร้านค้า โดยปกติในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านเครื่องดื่มจะมีเครื่องรับคืนขวดและกระป๋อง คุณจะได้รับใบเสร็จที่สามารถนำไปยื่นที่แคชเชียร์เพื่อรับเงินคืน ขวดแก้วที่ไม่มีระบบมัดจำจะต้องนำไปทิ้งในตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขวดแก้ว

หากคุณต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ คอมพิวเตอร์ หรือรองเท้าสักคู่ คุณสามารถไปที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านเฉพาะทางได้ ห้างสรรพสินค้ามีสินค้าหลากหลายประเภทและมักจะตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ ส่วนร้านเฉพาะทางจะเน้นขายสินค้าประเภทใดประเภทหนึ่ง เช่น ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือร้านรองเท้า โดยทั่วไปเวลาทำการจะอยู่ระหว่าง 09.00 น. ถึง 20.00 น. แต่บางครั้งอาจปิดเร็วถึง 18.30 น.

ในปัจจุบันคุณยังสามารถสั่งซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย โดยปกติจะต้องรอเพียงไม่กี่วันและสินค้าจะถูกจัดส่งถึงบ้าน

ในเยอรมนี คุณสามารถซื้อสินค้ามือสองได้เช่นกัน เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ หนังสือ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมักจะมีราคาถูกกว่า

ในช่วงสุดสัปดาห์ มักจะมีตลาดนัดขายของเก่า (Flohmarkt) โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าสินค้ามือสองเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณสามารถค้นหาได้ง่าย ๆ โดยพิมพ์คำว่า “Flohmarkt” หรือ “Second Hand” พร้อมชื่อเมืองของคุณในอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ยังสามารถหาสินค้ามือสองราคาถูกได้ในอินเทอร์เน็ต แต่ควรระวัง เนื่องจากไม่ใช่ทุกข้อเสนอบนเว็บไซต์จะน่าเชื่อถือ แพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น

ในประเทศเยอรมนี มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย โดยปกติแล้วคุณสามารถชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรกิโร (หรือที่เรียกว่าบัตร EC) ได้เกือบทุกที่ หากคุณมีบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน คุณจะได้รับบัตรกิโรหรือบัตรเดบิต และมักจะได้รับบัตรเครดิต (เช่น MasterCard หรือ Visa) ด้วย ในซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าเฉพาะบางแห่ง คุณสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตของคุณได้ นอกจากนี้ การชำระเงินผ่านมือถือ หรือการจ่ายเงินด้วยสมาร์ทโฟน ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในเยอรมนีเช่นกัน

ในอินเทอร์เน็ต เราสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ รวมถึงชำระเงินผ่านการหักบัญชีธนาคารหรือการออกใบแจ้งหนี้ได้อีกด้วย หากต้องการชำระเงินผ่านการหักบัญชีธนาคาร คุณจะต้องกรอกรายละเอียดบัญชีธนาคารของคุณทางออนไลน์ จากนั้นเงินจะถูกหักจากบัญชีของคุณ หากเลือกการชำระเงินด้วยใบแจ้งหนี้ คุณจะต้องโอนเงินจากบัญชีของคุณ มีวิธีการชำระเงินอื่นๆ เช่น PayPal ด้วยเช่นกัน คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความเกี่ยวกับ การเงินและภาษี

ราคาของสินค้าในร้านค้าส่วนใหญ่ในเยอรมนีจะตายตัว ในตลาดและเมื่อซื้อสินค้ามูลค่าสูงในร้านค้าเฉพาะทาง คุณอาจสามารถต่อรองราคาได้ในบางครั้ง แต่โดยปกติแล้ว การต่อรองราคาไม่ใช่เรื่องที่ทำกันทั่วไป

คุณซื้อสินค้าแล้วพบว่ามีปัญหา? ในกรณีของสินค้ามือหนึ่ง คุณมีสิทธิ์ในการรับประกันสินค้าเป็นเวลา 2 ปี: คุณจะได้รับสินค้าชิ้นใหม่ หรือคุณสามารถคืนสินค้าที่ชำรุดและรับเงินคืน หรือจ่ายน้อยลง สำหรับสินค้ามือสอง ระยะเวลาการรับประกันคือ 12 เดือน บางครั้งสินค้าก็จะมีการรับประกันเพิ่มเติมด้วย หากสินค้า เช่น โทรทัศน์ เสียภายในระยะเวลาการรับประกัน จะมีการซ่อมแซมให้ฟรี หรือคุณจะได้รับโทรทัศน์เครื่องใหม่ ระยะเวลาการรับประกันจะนับจากวันที่ซื้อครั้งแรกและอยู่ระหว่าง 12-24 เดือน

หากสินค้าไม่ถูกใจคุณหรือคุณยังไม่ได้ใช้ คุณสามารถนำไปแลกเป็นสินค้าอย่างอื่นได้ และส่วนใหญ่คุณสามารถคืนสินค้านั้น ๆ พร้อมกับรับเงินคืนได้ด้วย การเปลี่ยนหรือคืนสินค้ามักทำได้ภายใน 14 วันโดยแสดงใบเสร็จ สินค้าจัดรายการมักแลกไม่ได้