สู่ปรากฏการณ์ใหม่ทางดนตรี เขย่าทุกโสตประสาท เมื่อวงดนตรีแชมเบอร์มาพบกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ทัวร์คอนเสิร์ตจากวง Ensemble Resonanz พร้อมแล้วที่จะมาระเบิดความมันที่คอนเสิร์ต Urban String ในประเทศไทย
Ensemble Resonanz วงดนตรีเครื่องสายจากฮัมบวร์ก เยอรมนี ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานผ่านการเสดงคอนเสิร์ต นำเสนอดนตรีแนวใหม่มาแล้วมากมาย พวกเขานำผลงานเพลงชื่อดังในยุคเก่า มาตีความใหม่ในบริบทร่วมสมัยได้อย่างลงตัว วงดนตรีนี้มีที่มาจากย่าน St. Pauli แหล่งดนตรีที่มีชื่อเสียงในเมืองฮัมบวร์ก ที่นี่เองที่พวกเขาได้ริเริ่มสร้างสรรค์คอนเสิร์ตชุด “Urban String” ขึ้น ซึ่งเป็นการรวมเอาดนตรีคลาสสิกเข้ากับดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ในคลับ
ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ Ensemble Resonanz จะออกเดินทางเพื่อเปิดการแสดงในอาเซียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมนำชุดการแสดงคอนเสิร์ตอันโด่งดังของพวกเขามาพบกับดีเจในแต่ละประเทศเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางดนตรีที่มีเอกลักษณ์ร่วมกัน โดยที่กรุงเทพฯ พวกเขาจะร่วมงานกับดีเจชาวไทย Maft Sai ในคอนเสิร์ตใน
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 60 นี้ที่ร้าน Whiteline (สีลม ซอย 8) ตั้งแต่สองทุ่มเป็นต้นไป สำหรับ 150 ท่านแรกรับเครื่องดื่มมอคเทลฟรี
Ensemble Resonanz ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2002 ในเมืองฮัมบวร์ก พร้อมสร้างคอนเสิร์ตฮอลล์ในชื่อ “Resonanzraum” ขึ้นจากสถานที่ที่เคยเป็นหลุมหลบภัยเก่า วงดนตรีออเคสตร้าเครื่องสายวงนี้มีการจัดการภายในวงแบบเท่าเทียมและไม่มีผู้ควบคุมวงที่แน่นอน เนื่องจากพวกเขามักมีการร่วมงานกับศิลปินอื่นๆ อยู่เสมอ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านความหลากหลายและความแปลกใหม่ของแนวเพลงไม่เพียงแต่ในฮัมบวร์กเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย
©DJ Maftsai
ดีเจ MAFT SAI (ดีเจ, โปรดิวเซอร์, นักดนตรีเครื่องเคาะ, เจ้าของร้านแผ่นเสียงและบาร์)
MAFT SAI (“มัฟท์ ไซ” หรือณัฐพล เสียงสุคนธ์) เป็นผู้ที่ชื่นชอบและสะสมแผ่นเสียง ทั้งยังเป็นดีเจมากว่า 15 ปี สร้างสรรค์เพลงที่ผสมผสานระหว่างเพลงลูกทุ่ง, หมอลำ, เร็กเก้, แอฟริกัน, เอธิโอเปีย, ไซคี และเพลงใต้ดินจากทั่วโลก นอกจากนั้นยังเคยได้รับเชิญไปร่วมรายการวิทยุชื่อดังมาแล้วทั่วโลก อาทิ "BBC 6", "Worldwide Radio" โดย Gilles Peterson & "NTS Radio" (ลอนดอน) ดีเจ MAFT SAI ได้ร่วมกับศิลปิน Chris Menist ตั้งวงดนตรี “The Paradise Bangkok Molam International Band” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะวงที่เล่นเพลงหมอลำคลาสสิกในกลิ่นอายแบบยุคใหม่ การผสมผสานระหว่างท่วงทำนองเพลงหมอลำกับดนตรีฟังก์ที่มีกลิ่นอายแบบสมัยใหม่ทำให้วงดนตรีของเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ และได้รับเชิญให้ไปร่วมเล่นในคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีต่างๆ ทั้งในยุโรปและประเทศอื่นๆ มาแล้วมากมาย
ปัจจุบันเขายังได้ก่อตั้ง “Studio Lam” (สตูดิโอลำ) พื้นที่ทางดนตรีใหม่ที่เป็นทั้งบาร์และสตูดิโออัดเสียงเพื่อเปิดให้ผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ดนตรีใหม่ๆ นอกกระแสในไทยได้มารวมตัวกัน
© สมปรารถนา วปินานนท์
ย้อนกลับ