สารจากผู้อำนวยการ
"สถาบันเกอเธ่แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียงมีอดีตที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายเท่านั้น แต่ได้สร้างการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่เอาไว้อีกด้วย จากองค์กรที่บริหารงานเพียงคนเดียวได้ค่อยๆ กลายเป็นหนึ่งในสถาบันเกอเธ่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในเวลาต่อมา"
ครั้งแรกที่ดิฉันได้ก้าวเข้ามายังสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยเกอเธ่ในปี 2559 นั้น ดิฉันรู้สึกว่าตนเองช่างโชคดีเหลือเกิน เพราะที่นี่เปรียบเสมือนโอเอซิสไทย-เยอรมันที่ช่างเขียวชอุ่มงดงาม ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงเทพ เมืองหลวงที่มีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 10 ล้านคนแห่งนี้
คงไม่ผิดนักหากดิฉันจะกล่าวว่าที่นี่คือสถานที่ทำงานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเราชาวเกอเธ่ทั่วโลก แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าสถาบันที่แสนมีชีวิตชีวาแห่งนี้เคยต้องย้ายที่ตั้งมาแล้วถึงสองครั้งในกรุงเทพ และในปี 2563 นี้ก็ได้มีอายุครบ 60 ปีแล้ว
สถาบันเกอเธ่แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียงมีอดีตที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายเท่านั้น แต่ได้สร้างการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่เอาไว้อีกด้วย จากองค์กรที่บริหารงานเพียงคนเดียวได้ค่อยๆ กลายเป็นหนึ่งในสถาบันเกอเธ่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในเวลาต่อมา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 เป็นต้นมา มีผู้คนกว่าห้าแสนคนได้มาร่วมงานกิจกรรมทางวัฒนธรรมกว่า 8,000 งานและมีนักเรียนกว่า 227,000 คนที่ได้มาเรียนภาษาเยอรมันที่สถาบันเกอเธ่ กรุงเทพฯ
เบื้องหลังของตัวเลขที่กล่าวมานี้ต่างมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไม่รู้จบเกิดขึ้นมากมายที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย อดีตประเทศสยามเข้ากับประเทศเยอรมนีเอาไว้อย่างแน่นแฟ้น ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการบุกเบิกและการเริ่มต้น จินตนาการและความกระตือรือร้น ความหลงใหลและศิลปะในการด้นสด ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และยังรวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ ความเข้าใจทางวัฒนธรรมที่คลาดเคลื่อนและหลุมพรางในเรื่องความรักไทย-เยอรมัน
ตลอดช่วงเวลาหกทศวรรษที่ผ่านมา ไม่เพียงโลกเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังรวมไปถึงสังคมในเยอรมนีและประเทศไทยด้วยที่ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ถูกทำให้เป็นสากลและทันสมัยมากยิ่งขึ้นอย่างมาก ดิฉันรู้สึกประหลาดใจอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าในสิ่งที่น่าทึ่งต่างๆ ที่ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมไทย-เยอรมันได้สร้างขึ้น
ท่านรู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งพี่เขยของโทมัส มันน์เคยอาศัยอยู่ที่กรุงเทพและ Nakadia ดีเจดาวรุ่งแห่งไนท์คลับชื่อดังในเบอร์ลินนั้นมีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศไทย เพลงชาติไทยได้รับการประพันธ์โดยนักประพันธ์ชาวเยอรมันและกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ชาวไทยชื่อ UnThaiTled 2019 นั้นกำลังเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่น่าจับตามองในวงการศิลปะเยอรมันในขณะนี้
หากท่านเริ่มสนใจอยากรู้เรื่องราวเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น
ขอเชิญชวนมาร่วมงานกิจกรรมเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบของเราที่กำลังจะจัดขึ้น เพียงเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราสม่ำเสมอเพื่อติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน
ตลอดปี 2563 นี้เราจะจัดงานกิจกรรมต่างๆ ขึ้นมากมายเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีและหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์และบอกเล่าเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย เนื่องในโอกาสนี้ ดิฉันใคร่ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้มีส่วนร่วมทำให้เกิดงานต่างๆ ขึ้นและได้มีส่วนร่วมเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จให้แก่สถาบันแห่งนี้ตลอดช่วงเวลาหกทศวรรษที่ผ่านมา
ขอขอบคุณองค์กรพันธมิตรทั้งด้านวัฒนธรรม การศึกษาและเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ผู้ทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกท่าน ตลอดจนผู้เรียนภาษาเยอรมัน ผู้ใช้งานห้องสมุดและผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมทางวัฒนธรรมของเรา และท้ายที่สุด ขอขอบคุณผู้อำนวยการทั้ง 11 ท่านที่ได้เคยทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานให้แก่สถาบันมาตลอดระยะเวลาหกทศวรรษที่ผ่านมา
ขอบคุณค่ะ
มาเร็น นีไมเออร์
ผู้อำนวยการ
สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย
คงไม่ผิดนักหากดิฉันจะกล่าวว่าที่นี่คือสถานที่ทำงานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเราชาวเกอเธ่ทั่วโลก แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าสถาบันที่แสนมีชีวิตชีวาแห่งนี้เคยต้องย้ายที่ตั้งมาแล้วถึงสองครั้งในกรุงเทพ และในปี 2563 นี้ก็ได้มีอายุครบ 60 ปีแล้ว
สถาบันเกอเธ่แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียงมีอดีตที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายเท่านั้น แต่ได้สร้างการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่เอาไว้อีกด้วย จากองค์กรที่บริหารงานเพียงคนเดียวได้ค่อยๆ กลายเป็นหนึ่งในสถาบันเกอเธ่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในเวลาต่อมา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 เป็นต้นมา มีผู้คนกว่าห้าแสนคนได้มาร่วมงานกิจกรรมทางวัฒนธรรมกว่า 8,000 งานและมีนักเรียนกว่า 227,000 คนที่ได้มาเรียนภาษาเยอรมันที่สถาบันเกอเธ่ กรุงเทพฯ
เบื้องหลังของตัวเลขที่กล่าวมานี้ต่างมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไม่รู้จบเกิดขึ้นมากมายที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย อดีตประเทศสยามเข้ากับประเทศเยอรมนีเอาไว้อย่างแน่นแฟ้น ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการบุกเบิกและการเริ่มต้น จินตนาการและความกระตือรือร้น ความหลงใหลและศิลปะในการด้นสด ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และยังรวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ ความเข้าใจทางวัฒนธรรมที่คลาดเคลื่อนและหลุมพรางในเรื่องความรักไทย-เยอรมัน
ตลอดช่วงเวลาหกทศวรรษที่ผ่านมา ไม่เพียงโลกเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังรวมไปถึงสังคมในเยอรมนีและประเทศไทยด้วยที่ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ถูกทำให้เป็นสากลและทันสมัยมากยิ่งขึ้นอย่างมาก ดิฉันรู้สึกประหลาดใจอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าในสิ่งที่น่าทึ่งต่างๆ ที่ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมไทย-เยอรมันได้สร้างขึ้น
ท่านรู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งพี่เขยของโทมัส มันน์เคยอาศัยอยู่ที่กรุงเทพและ Nakadia ดีเจดาวรุ่งแห่งไนท์คลับชื่อดังในเบอร์ลินนั้นมีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศไทย เพลงชาติไทยได้รับการประพันธ์โดยนักประพันธ์ชาวเยอรมันและกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ชาวไทยชื่อ UnThaiTled 2019 นั้นกำลังเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่น่าจับตามองในวงการศิลปะเยอรมันในขณะนี้
หากท่านเริ่มสนใจอยากรู้เรื่องราวเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น
ขอเชิญชวนมาร่วมงานกิจกรรมเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบของเราที่กำลังจะจัดขึ้น เพียงเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราสม่ำเสมอเพื่อติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน
ตลอดปี 2563 นี้เราจะจัดงานกิจกรรมต่างๆ ขึ้นมากมายเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีและหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์และบอกเล่าเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย เนื่องในโอกาสนี้ ดิฉันใคร่ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้มีส่วนร่วมทำให้เกิดงานต่างๆ ขึ้นและได้มีส่วนร่วมเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จให้แก่สถาบันแห่งนี้ตลอดช่วงเวลาหกทศวรรษที่ผ่านมา
ขอขอบคุณองค์กรพันธมิตรทั้งด้านวัฒนธรรม การศึกษาและเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ผู้ทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกท่าน ตลอดจนผู้เรียนภาษาเยอรมัน ผู้ใช้งานห้องสมุดและผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมทางวัฒนธรรมของเรา และท้ายที่สุด ขอขอบคุณผู้อำนวยการทั้ง 11 ท่านที่ได้เคยทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานให้แก่สถาบันมาตลอดระยะเวลาหกทศวรรษที่ผ่านมา
ขอบคุณค่ะ
มาเร็น นีไมเออร์
ผู้อำนวยการ
สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย